วิธีการเล่น
วอลเลย์บอลเป็นกีฬาสากลชนิด หนึ่งที่มีการเล่นเป็นทีม ซึ่งในการเล่น ต้องอาศัยความสามัคคี
ของผู้เล่นในทีม จึงจะมีโอกาสได้รับชัยชนะในการแข่งขัน กีฬาวอลเลย์บอลยังช่วยฝึกฝนให้ ผู้เล่นมีไหวพริบที่ดีมีวิธีแก้ปัญหาอย่าง เฉียบพลันได้ มีความรอบคอบ มีสมาธิดี และมีความเชื่อมั่นในตนเอง
๑ การสร้างความคุ้นเคยกับลูกบอล
การเล่นกีฬาที่ใช้ลูกบอลเป็นอุปกรณ์การเล่น ผู้เล่นต้องฝึกฝนตนเองให้คุ้นเคยกับลูกบอล
รู้น้ำหนักตัว รู้จังหวะ และรู้ลักษณะการเคลื่อนที่ของลูกบอลเพื่อทำให้ผู้เล่นสามารถควบคุม ลูกบอลได้ตามต้องการ การสร้างความคุ้นเคยกับลูกบอลสามารถฝึกได้หลายวิธี เช่น ส่งลูกบอลกับคุ่สองมือระดับศีรษะรับส่งลูกบอลจากมือขวาและซ้ายวนรอบตัวเอง นั่งก้มและชูลูกบอล เป็นต้น
๒ ทักษะเบื้องต้นของวอลเลย์บอล
การเล่นวอลเลย์บอลให้มีความสนุกสนาน ผู้เล่นต้องมีทักษะในการเล่นวอลเลย์บอล ดังนี้
๑) ท่าเตรียม
ยืนแยกเท้าห่างกัน ๑ ช่วงไหล่ ให้เท้าใดเท้าหนึ่งวางข้างหน้า ย่อเข่าลงเล็กน้อย
ยกส้นเท้าขึ้นเล็กน้อย โดยให้น้ำหนักตัวอยู่บนเท้าทั้งสองข้าง ยกมือ ขึ้นระดับหน้าอก ยื่นไปข้างหน้าเล็กน้อย ตามองตรง
๒) การเล่นลูกสองมือล่าง
การเล่นลูกบอลด้วยสองมือล่าง หรือ การดันเดอร์ เป็นการเล่นลูกโดยใช้เขนท่อนล่างบังคับ
หรือส่งลูกบอลไปยังทิศทางหรือตำแหน่งที่ต้องการ
วิธีเล่นลูกสองมือล่าง มีหลายแบบ เช่น
(๑) แบบซ้อนมือ เป็นวิธีที่นิยมเล่นกันมาก โดยวางมือหนึ่งซ้อนทับมืออีกข้างหนึ่ง
แล้วให้นิ้วหัวแม่มือชิดติดกัน
(๒) แบบกำมือ กำมือขวา ให้นิ้วหัวแม่มือเหยียดตรง ใช้มือซ้ายกำรอบ มือขวาอีกทีหนึ่ง
ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างเหยียดตรงเสมอกันและวางบนนิ้วชี้
(๓) แบบสอดนิ้วใช้นิ้วมือทั้งสองประสานกันแล้วกำมือ โดยให้สันมือทั้งสองชิดกัน
นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างเหยียดตรงและวางบนนิ้วชี้
การออกแรงเล่นลูกด้วยสองมือล่าง ถ้าลูกบอลพุ่งมาไม่แรง ต้องเพิ่มแรงยกของแขนขึ้น
เพื่อให้แขนกระทบลูก แต่ถ้าลูกบอลพุ่งมาแรงมากให้ออกแรงส่งเพียงเล็กน้อย
๓) การเสิร์ฟ
เป็นการส่งลูกไปยังแดนฝ่ายตรงข้าม มี ๒ ลักษณะ ดังนี้
(๑) การเสริฟลูกมือล่าง มีวิธีเสิร์ฟ ดังนี้
๑. ยืนหันหน้าเข้าหาตาข่าย วางเท้าที่อยู่ตรงข้ามกับมือข้างที่ใช้ตีลูกบอลไว้ข้างหน้า
ส้นเท้าหลังเปิดเล็กน้อย
๒. ใช้มือข้างที่ไม่ถนัดถือลูกบอล ให้ลูกบอลอยู่ในระดับหน้าท้องและห่างลำตัวประมาณ ๑ ฟุต
งอข้อศอกและโน้มตัวไปข้างหน้า จากนั้นเหวี่ยงแขนข้างที่ถนัดไปด้านหลัง พร้อมกับโยนลูกบอลขึ้น
๓. จังหวะที่ลูกบอลเริ่มตก ให้เหวี่ยงแขนข้างที่ถนัดตีลูกบอลบริเวณส่วนหลังด้านล่างของลูกบอล
เมื่อตีลูกบอลไปแล้วให้เหวี่ยงแขนตามลูกบอล เพื่อช่วยบังคับลูกให้ไปในทิศทางที่ต้องการ
(๒) การเสิร์ฟลูกมือบนมีวิธีเสิร์ฟ ดังนี้
๑. ยืนตรง พร้อมกับหันหน้าเข้าหาตาข่าย ยืนแยกเท้าห่างกันประมาณ ๑ ฟุต
๒. ใช้มือข้างที่ไม่ถนัดโยนลูกบอลขึ้นเหนือไหล่ ขณะโยนลูกบอลให้ยกแขนข้างที่ถนัดไปด้านหลัง
ตั้งข้อศอก บิดไหล่ขวา ย่อเข่าเล็กน้อย
๓. ใช้ฝ่ามือส่วนล่างตีตรงกลางส่วนหลังของลูกบอล โดยเหยียดตัวตรงในขณะฝ่ามือถูกลูกบอล
ให้เหยียดแขนพร้อมกับก้าวเท้าข้างที่ถนัดไปข้างหน้า
๔) การแตะชูลูกบอล การแตะชูลูกบอล หรือที่เรียกว่า การเซต
เป็นพื้นฐานอย่างหนึ่งในการเล่น วอลเลย์บอล ซึ่งมีวิธีฝึก ดังนี้
(๑) ยืนแยกเท้าห่างกันประมาณ ๑ ช่วงไหล่ ย่อเข่าตัวตั้งตรง
(๒) ให้ยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือหน้าผาก หน้าเงยดูลูกบอลลักษณะของมือให้ยกมือสองข้าง
ขึ้นเหนือศีรษะงอข้อศอกเล็กน้อยกางนิ้วออกให้ห่างกัน
(๓) เมื่อลูกบอลตกลงมาสัมผัสมือ ให้นิ้วมือสัมผัสลูกบอล เข่าเหยียดพร้อมกับเหยียดแขน
ส่งลูกบอลไปในทิศทางที่ต้องการ
๕) การตบ
เป็นการตีลูกบอลอย่างรุนแรงเพื่อให้ข้ามไปฝ่ายตรงข้ามโดยผู้เล่นจะวิ่งเข้าใกล้ตาข่าย ย่อเข่า กระโดดตัวลอยและต้องไม่ให้ส่วนใดของร่างกายถูกตาข่าย แล้วใช้มือข้างใดข้างหนึ่งตีลูก บอลไป
๖) การสกัดกั้น การสกัดกั้น หรือที่เรียกว่า การบล็อค
เป็นทักษะที่จำเป็นมากในการเล่นวอลเลย์บอลซึ่งมีวิธีปฎิบัติ ดังนี้
ผู้สกัดกั้นต้องเคลื่อนเข้าใกล้ตาข่ายให้ใกล้มากที่สุดย่อตัวสปริงข้อเท้า แล้วกระโดดให้สูงที่สุด
ยกมือทั้งสองเหนือศีรษะ เกร็งและกางนิ้วออก ใช้ข้อมือสะบัดกดลูกลงไปสู่พื้นในแดนตรงข้ามจาก นั้นลงสู่พื้นด้วยปลายเท้า ทั้งคู่พร้อมกันงอเข่าเล็กน้อยเพื่อช่วยทรงตัวและลดการกระแทก |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น